สสส.ปลุกคนรุ่นใหม่รู้ทันอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUx8CrZTJtel8TKOA7l_bZzoZFX86yAhWcv6hqgJt1lSK1EoYYB0Hd7uipmDRb5iIKLjTGIlmjydAJNokt8Jwvprz_jlf5STXHYaWrg3YISTxRbuCuk76jQurygIeznkmrqJ6V3bSLXn1ovN4z9hTIY8KF18HMaFIKCmAarLCY8nTk4-A44SToAdfm/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%99.jpg)
วันที่ 8 พ.ค. 2566 สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายเด็กและเยาวชน จัดเสวนาทางวิชาการเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ากับคนรุ่นใหม่ หัวข้อ “รู้ไหมว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย” เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2566 ยืนยันผลกระทบต่อประชาชน หากผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ไม่คุ้มค่ากับภาษีที่จัดเก็บได้ ทำให้ประชาชนได้รับความเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiG441qcXrqUTyImQMFg6K7XlD8iN_vD_7yOPbeOFEHGxQNCcta-Gt4gDrVcYG9rqkWawgQm0pYenqPuBe0JDsY-sWU2Ht_yUUDzW7QwkMXcBCwcDxnIU2AdcbgFZzClpxTH_wUffQofFKlhxHH-1uH1h29V77tUEJeiVyQky4SW7s0aG_DlJRVSpy4/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%996.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhEk3C80wmCVl-TvT6ENT-tiQTE6YggJIGYfW0lHY31e4lxStHK9FRCTEYm9AykhE4sTihHJxxW0CcUYbEm_0S63sf3NQAVAKqjz7m4bSTVzKqatICedGytgVSc-pgiSdy7oQZck_X8Tz2lnULLL-OM8LyVaV5lxo0hu3VnDbtgynqgwDtu2PjwIfFc/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%992.jpg)
“การสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง มีข้อมูลระบุว่าปริมาณฝุ่นพิษหรือ PM2.5 จากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 1,121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่าอากาศมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดถึง 45 เท่า แต่ที่น่ากังวลมากที่สุด คือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นทางของการสูบบุหรี่และการเสพติดนิโคตินของเด็กและเยาวชน งานวิจัยในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา พบว่าเด็กที่ได้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเริ่มสูบบุหรี่ธรรมดารวมทั้งสูบบุหรี่ธรรมดาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งตรงกับข้อมูลการศึกษาในไทยที่พบเด็กไทยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ธรรมดามากกว่าเด็กที่ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 4 เท่า” รศ.พญ.เริงฤดี กล่าว
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUNEo7Pxkvk4Mq7dV5XR_a-iAIFIvzgkD8DE-yIiLw518WxW7ckJwgtw5TkpBZrqBtf9BsE3nrxhsGlf_9p4yzdVpM9ftNyH1MenPdv6rRnX5eb69nRjd8rcwr9N0pAcQvHLwHwcj6Z7VSfyqFoqlLfhuuwyfhfdUmgUnHXFHujsGJlI5sTFKFXS_E/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%993.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgeWTySGowqHf8XWvvC-Ks59A1RD3YCU030qUJMGAES2-Zkl3gD3kNWigbjnz7FIQmniWifdmal5lK7JMXcGQrxLOjlOIzbYjtmzJqVXG2Z7QQOHfDhrczdV9DtvKR6aWUKbHbZiBDjNFHoMDyekL5qZNtaeDlby3KhJoUI3gAk9tBgg6ZqdaAeR_Mw/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%994.jpg)
4.พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มาตรา 4 เพราะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินเป็นส่วนประกอบ หากสูบในพื้นที่ห้ามสูบตามกฎหมายตามมาตรา 67 จะมีฐานความผิดการห้ามสูบในที่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่ที่ผ่านมายังมีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชนมาตลอด จึงอยากขอความร่วมมือให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง
“สังคมไทยมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชา ต้องยอมรับว่ากัญชานับเป็นพืชที่สามารถให้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ และการใช้งานกัญชาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์คือ ต้องไม่มีการเอาไปใช้ประโยชน์อย่างเสรีของบุคคลทั่วไป แต่บุหรี่ไฟฟ้ากลับยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ในมิติต่าง ๆ ได้เลย โดยเฉพาะประเด็นการช่วยเลิกบุหรี่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดมีการยื่นขออนุญาตและขึ้นทะเบียนให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยเลิกสูบบุหรี่ ตามที่มีการกล่าวอ้าง จึงขอเน้นย้ำประชาชนทุกคนว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อันตรายไม่แตกต่างจากบุหรี่มวน การสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดการเจ็บป่วยในอนาคตได้” นายไพศาล กล่าว
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjF0gxBsIymkd6CnocgL8GVLZEHhK9L2Adnsvt7Oi6l44vJkRl1MyRSiOKSPdGmKBHCFBaprp0a2psmSCK5OwDNZr2FtLyZ7qpxiF0IWI-oHwOmqCdo_PEdEKuyMMNbBSfEYVBfGBIahFpwuPdKF9Xl3u95NUjtsUhUHKXSLBnv8sYu6NJYgIWkQcuK/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%995.jpg)
ซึ่งหลายประเทศเริ่มมีการควบคุมบุหรี่ทุกชนิดอย่างเข้มข้น เช่น นิวซีแลนด์ได้ผ่านร่างกฎหมายห้ามจำหน่ายบุหรี่ทุกชนิดให้เด็กและเยาวชนที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม ปี 2552 เป็นต้นไป พร้อมตั้งเป้าหมายให้นิวซีแลนด์ปลอดบุหรี่ภายในปี 2568 ซึ่งนายอาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ประกาศว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุขได้หลายพันล้านดอลลาร์ สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยจากโรคที่มีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ เช่น มะเร็ง ภาวะหัวใจวาย
No comments