Header Ads

ผนึกพลังรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” จากองค์กรสู่ “ชุมชนอุดมสุข” กว่า 1,095 แห่งภาคเหนือตอนบน

ผนึกพลังรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” จากองค์กรสู่ “ชุมชนอุดมสุข” กว่า 1,095 แห่งในภาคเหนือตอนบน หวัง หนุนเศรษฐกิจ–สังคมและส่งเสริมสุขภาพ ให้ชุมชนเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เดินหน้าความร่วมมือรณรงค์โครงการ “งดเหล้าเข้าพรรษา” มากว่า 20 ปี โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ได้ขับเคลื่อนการรณรงค์ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งองค์กรของ ธ.ก.ส. มีการทำงานสองมิติหลัก ทั้งในมิติระดับองค์กรและระดับชุมชน มุ่งหวังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่พนักงานและครอบครัว พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชน เพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านสุขภาพ ลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือน และส่งเสริมการมีวินัยทางสังคมในพื้นที่งานบุญหรือกิจกรรมในชุมชน.

นายประสงค์ สังวาลย์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา ธ.ก.ส. ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงที่บั่นทอนทั้งสุขภาพ ครอบครัว และเศรษฐกิจ โครงการรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” จึงถูกใช้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง เริ่มจากการปรับพฤติกรรมของพนักงานในองค์กร สู่การขยายผลไปยังชุมชน “โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาไม่ใช่เพียงแค่การรณรงค์เชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นโอกาสให้พนักงานของ ธ.ก.ส. ได้ลองปรับพฤติกรรม หันมาดูแลสุขภาพ ตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับการดื่ม และเห็นผลลัพธ์จริงทั้งต่อร่างกาย ต่อครอบครัว และต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เราเชื่อว่าหากทุกคนเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ นี้ จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน” ซึ่ง ธ.ก.ส.ทำงานร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายงดเหล้า (สคล.) และ สสส. รวมถึงภาคีท้องถิ่น เพื่อขยายกิจกรรมรณรงค์และนำโมเดลต้นแบบไปใช้ในชุมชนต่าง ๆ ของภาคเหนือตอนบน

การรณรงค์ภายในองค์กร

จัดกิจกรรมให้พนักงานร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา พร้อมกิจกรรมเสริมสุขภาพ (เช่น โครงการคนดีศรี ธ.ก.ส. / ฟิตแอนด์เฟิร์ม) เพื่อให้เห็นผลในคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานหลังโครงการ. ประโยชน์ต่อพนักงาน ธ.ก.ส. ได้แก่ 1) การงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาช่วยให้พนักงานได้ดูแลสุขภาพและตระหนักถึงพิษภัยของแอลกอฮอล์  2) สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดื่ม ซึ่งเฉลี่ยสูงถึงเดือนละ 2,000-5,000 บาท/ เดือน  3) มีคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น เมื่อเลิกดื่มแล้วสามารถประเมินผลได้จริงในระดับองค์กร  4) เชื่อมโยงกับกิจกรรมโครงการภายในองค์กร เพื่อการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ โครงการ “คนดีศรี ธ.ก.ส.” และ กิจกรรมฟิตแอนด์เฟิร์ม เพื่อสนับสนุนสร้างความยั่งยืนให้กับพนักงาน


การขยายผลสู่ชุมชน

ความร่วมมือครั้งนี้ได้ต่อยอดจากองค์กรสู่ระดับพื้นที่ โดยสนับสนุน ผู้นำชุมชนที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และแกนนำในท้องถิ่น ให้ลุกขึ้นมาขับเคลื่อนการรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา ลดเหล้า ลดหนี้” ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เน้นการตระหนักรู้ถึงผลกระทบของการดื่ม ทั้งด้านสุขภาพและค่าใช้จ่ายของครัวเรือน โดยมี กิจกรรม “โอ่งชีวิต” เป็นสื่อกลางสะท้อนภาพงบการเงินครอบครัวในชุมชนต้นแบบ เศรษฐกิจพอเพียงขั้นที่ 3    


จากจุดเริ่มต้นนี้ ได้ขยายผลสู่การสร้าง “ชุมชนอุดมสุข” กว่า 1,095 แห่ง ครอบคลุม 4 มิติสำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และประเพณีวัฒนธรรม ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในแต่ละพื้นที่ โดยคัดเลือกชุมชนต้นแบบที่โดดเด่น เช่น ชุมชนบ้านใหม่พัฒนา อ.ภูเพียงจ.น่าน, ชุมชนบุญแจ่ม บ้านทุ่งศรี จ.แพร่, ชุมชนบ้านป่ายาง อ.แม่จัน และชุมชนบ้านหนองหมดอ.พาน จ.เชียงราย, ชุมชนบ้านหนองบัว อ.แม่ใจและบ้านปัวแหลง อ.เชียงคำ จ .พะเยา ในด้านสังคม มีการส่งเสริมหมู่บ้านศีล 5 ให้เป็นหมู่บ้านคุณธรรมต้นแบบ ร่วมกันกำหนดกฎกติกาชุมชนเช่น การงดจำหน่ายและไม่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการดื่ม เสริมสร้างครอบครัวให้มั่นคง และสร้างสังคมที่อบอุ่นอย่างยั่งยืน

ทางด้าน นางกัญญานันท์ ตาทิพย์ ผู้จัดการเครือข่ายงดเหล้าศูนย์ภาคเหนือตอนบน สะท้อนภาพของการทำงานร่วมกันระหว่าง ธ.ก.ส. เครือข่ายงดเหล้า และ สสส. ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ ลดปัจจัยเสี่ยง สร้างสังคมเข้มแข็ง และเติมเต็มความสุขอย่างยั่งยืน “การงดเหล้าไม่ใช่เพียงการดูแลสุขภาพตัวเอง แต่คือการส่งต่อพลังบวกสู่ครอบครัวและชุมชน” ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ในองค์กร แต่ขยายไปสู่ชุมชน เกิดเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คนในสังคมเห็นว่า การงดเหล้าคือจุดเริ่มต้นของการสร้าง “ชุมชนอุดมสุข” ที่มีความสมดุลทั้งสามด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพ: การงดเหล้าส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคและปัญหาสุขภาพระยะยาว, ด้านสังคม ความร่วมมือครั้งนี้เป็นพลังในการสร้างค่านิยมใหม่ ลดปัญหาความรุนแรงและความเหลื่อมล้ำ สู่สังคมที่เกื้อกูลและปลอดภัย, ด้านเศรษฐกิจ ธ.ก.ส. ยังต่อยอดด้วยการสนับสนุนการสร้างรายได้เสริมและอาชีพในครัวเรือน โดยให้ความสำคัญกับครอบครัวที่มุ่งมั่นเลิกเหล้าและยาเสพติด ผ่านมาตรการทางการเงินและโอกาสทางเศรษฐกิจ ช่วยวางรากฐานความมั่นคงในระยะยาวดังนั้น การจับมือร่วมกันของทุกภาคส่วนจึงไม่เพียงสร้างประโยชน์เชิงองค์กร แต่ยังเป็นต้นแบบของการบูรณาการสุขภาวะ สังคม และเศรษฐกิจ ที่นำไปสู่ความยั่งยืนของชุมชน และตอกย้ำว่า “สังคมอุดมสุข” ไม่ใช่เพียงความฝัน แต่คือความจริงที่เกิดขึ้นได้หากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจ


No comments

Powered by Blogger.