วช. เชิดชู “ศ.ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์” นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ 66
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhZB2ZovbWxPUcswE-R1X8kO8Yx7W--bL3FUIBeNsMHW0pKyAtoxw_17m1DsC5Z1W0o434yMDGlNB_t2CXhJOEUYg5KDP6IgzKwYJ_FLKiiRX86EgbbtSsPCcqLxxpdyzvEn6OKDQsKepvUet7Wh7N4sqaxHSzycqrcmnAtRCF0JmCf4JWIm64ZngXK/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%B2.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjn1zAiUgyerJzUIzdhcAfd7Z1mVmJFTm_8wwy5WYyFcj86ChZA4En4qAbsGyd2OXsJbI6upnDTpkdA1oRMrQ5GY0gFjHXHVoqnboKOhUvzdBzVCJdWa2zR0vvYbugLi0S0gOuU8Qlod8M29DBqs9obPCipYcz0fiOSyPZ7ujlprzrMvS4tT1fWGrX/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%B23.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhp4LXK-vLy-w0pUOMC0go4DlLpRmFpBGR6c6y-N7MPCXhZXzYKMWgkM36SWx-fya9EE_mO40D9zAeoQD3kX1xoF2MlcafXOKYNzaCdlB7EE7OItzC5Cz3xlhprWVn2WGgSugKe0qPDx-G7HozMMlaJdUMOxubl6fhrWWRUP5i37GriKRcfETzAiMcO/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%B24.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUq7zaBZF9ba3HOAqtn6G61pyoOuuiKr72rjsQX0gjlPqv-zRDfKvmO9IFXAI_ijdnJtVaam42An4B7qZ7pYtVEK7Knm8EbyxWOEWv164ooyLoPSIyrOYVyYsfgptHSLYnIqFvbRk9yo9PYm_R9fcoxU2e_RvAtK7uAgcl_chKR8-R58P0IGtBRZid/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%B28.jpg)
และที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับยกย่องว่ามีจริยธรรมของนักวิจัย สมควรเป็นแบบอย่างแก่นักวิจัยผู้อื่นได้ ซึ่งเวที NRCT Talk จะเป็นเวทีในการที่จะนำนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อมวลชนและยังเป็นการเชิดชูนักวิจัยทางด้านสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มีคุณค่า สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นักวิจัยเกิดยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรมสร้างองค์ความรู้พื้นฐานทางวิชาการต่อสังคมและเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งของผลงานวิจัยดังกล่าวจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อสังคมของประเทศชาติต่อไปศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ กล่าวว่า ทั่วโลกเผชิญปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อยา มาลาเรียยังคงเป็นปัญหาหลักสำคัญของโลกคร่าชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลกมากกว่า 600,000 คน ต่อปี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขของไทยและองค์การอนามัยโลกได้กำหนดยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยปลอดจากเชื้อมาลาเรียภายในปี พ.ศ. 2567 นำไปสู่การประยุกต์ใช้เทคนิคทางชีวโมเลกุลเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ในการกำจัดมาลาเรียรวมถึงการดื้อยาทั้งในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง โดยจากผลการวิจัยนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคทางชีวโมเลกุลการตรวจหาผู้ที่ติดซื้อมาลาเรียแบบไม่แสดงอาการที่มีความไวสูงกว่าเทคนิคมาตรฐานกว่า 2,000 เท่า และนำไปตรวจในอาสาสมัครที่แข็งแรงจากไทย ลาว และกัมพูชา จำนวน 61,544 ราย เป็นครั้งแรก ทำให้สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นผู้ติดเชื้อบ้างอยู่บริเวณใดและได้ดำเนินการให้ได้รับยาในรูปแบบ mass drug administration เพื่อกำจัดเชื้อมาลาเรีย ส่งผลให้ผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียลดลงถึง 5 เท่าหลังการใช้ยา
จากการศึกษาค้นคว้าสู่การค้นพบการแพร่กระจายการดื้อยาอาร์เทมิซินิน จากเมืองไพลิน ประเทศกัมพูชาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลาว และเวียดนาม เป็นครั้งแรกของโลก ส่งผลให้เกิดการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้การแพร่กระจายการดื้อยานี้กระจายไปสู่ พม่า อินเดีย และไปถึงแอฟริกาในที่สุด จากการค้นพบนี้จะช่วยสร้างระบบเร่งรัดกำจัดเชื้อมาลาเรียดื้อยาเพิ่มประสิทธิภาพของยารักษาโรคมาลาเรียที่มีอยู่สู่การพัฒนายาใหม่ควบคุมและกำจัดโรคมาลาเรียได้อย่างทันท่วงที สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อมาลาเรีย ได้ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0 2306 9100-09 ต่อ 1414 และ 1418
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhp25sKsymzqSOx74lcr1lxamcpeR48PvNWVsGiNXBuj-wlAVKvFlPbEqibf8ZOsO8M2kts5Vq80IdtQ1Piv98vcKpZIXlUdNUVs3CWBPc9zK20vWvb654izO387wi-bQeIsfkh7CCbjQuYuTtrwnYkN0NwFmXYp53dfE_lAm4JoSJ2sojFX0TgKC45/s16000/%E0%B8%A1%E0%B8%B25.jpg)
No comments