คกก.สมุนไพรฯ เห็นชอบ 2 กลุ่มรายการ Herbal Champion

9 มกราคม 2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 โดยมี นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


นพ.ประพนธ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังรับทราบรายงานการศึกษา เรื่อง “โอกาสทางการค้าสินค้าสมุนไพรไทย กรณีศึกษา: สินค้าขมิ้นชัน” โดยกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ตลาดโลกมีมูลค่าการส่งออกขมิ้นชันถึง 366.78 ล้านเหรียญสหรัฐ อินเดียส่งออกสูงสุด 225.54 ล้านเหรียญฯ คิดเป็น 61.5% การนำเข้ามีมูลค่า 382.96 ล้านเหรียญฯ โดยสหรัฐอเมริกานำเข้าสูงสุด 62.74 ล้านเหรียญฯ คิดเป็น 16.4% ส่วนตลาดประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกขมิ้นชัน 2.97 ล้านเหรียญฯ ส่งออกไปอินเดียมากที่สุด 1.9 ล้านเหรียญฯ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 1.19 ล้านเหรียญฯ นำเข้าจากเมียนมามากที่สุด 7.78 แสนเหรียญฯ และแม้ไทยจะมีราคาส่งออกต่อหน่วย 2,244 เหรียญฯ/ตัน
สูงกว่าราคาต่อหน่วยของโลก (1,612 เหรียญฯ/ตัน) แต่ไทยยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาและเพิ่มมูลค่าขมิ้นชันได้ เช่น การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรและการแปรรูปขมิ้นชัน เป็นต้น โดยอาจศึกษาแนวทางการเพิ่มมูลค่าขมิ้นชันจากประเทศผู้ส่งออกที่มีราคาส่งออกต่อหน่วยสูง เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยมีข้อเสนอ 3 ด้านเพื่อสร้างโอกาสทางการค้า คือ 1.ด้านการเพาะปลูก โดยส่งเสริมเกษตรกรไทยปลูกขมิ้นชันเป็นพืชทางเลือก สร้างรายได้ สร้างมาตรฐานตั้งแต่การเพาะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม ส่งเสริมความรู้การปลูกขมิ้นชันให้มีระดับราคาดี ปรับปรุงสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้และส่งเสริมให้มีการปลูกตามแผนที่ความเหมาะสมของที่ดิน (Agri-map) 2.ด้านการแปรรูปและการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยศึกษาแนวทางการเพิ่มมูลค่าจากประเทศส่งออกที่มีราคาต่อหน่วยสูง สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับระบบตรวจสอบย้อนกลับ ส่งเสริมผู้ประกอบการ/วิสาหกิจชุมชนให้เข้าถึงเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมการผลิตสารสกัดขมิ้นชันที่ได้มาตรฐานเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรม เชื่อมโยงหน่วยงานวิจัยกับเกษตรกรหรือผู้ประกอบการ และผลักดันให้เกิดการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าสมุนไพร และ 3.ด้านการตลาด โดยเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันสมุนไพรแปรรูปอื่นๆ กับภาคท่องเที่ยว ส่งเสริมตลาดภายในประเทศเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้ประกอบการ กระจายและเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปตลาดอื่นๆ และติดตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
No comments