Header Ads

สรพ. ชู รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ต้นแบบสถานพยาบาลคุณภาพมาตรฐาน HA

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) ลงพื้นที่เยี่ยม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน HA (Healthcare Accreditation) และก้าวเข้าสู่การรับรองมาตรฐานคุณภาพขั้นก้าวหน้า (Advance HA) และการรับรองมาตรฐานเฉพาะโรค/ เฉพาะระบบ (Program and Disease Specific Certification: PDSC) ต้นแบบสถานพยาบาลทั่วประเทศ เน้นการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร โดยยึดหลัก 2P Safety ผู้ป่วยปลอดภัย บุคลากรปลอดภัย
rai12


rai2เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) ลงพื้นที่ร่วมศึกษาการพัฒนาคุณภาพการรักษา ดูแลผู้ป่วย ที่เป็นไปตามมาตรฐานโรงพยาบาลคุณภาพ HA โดยมี พญ.อัจฉรา ละองพาณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และคณะแพทย์ให้การต้อนรับ
%E0%B8%9E%E0%B8%8D.%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93

พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้นำคณะสื่อมวลชนร่วมศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับคุณภาพโรงพยาบาลมาตรฐาน HA โดยมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ หรือ HA ที่ สรพ. พัฒนาขึ้นมาถือได้ว่าเป็นเครื่องมือสำหรับสถานพยาบาลที่จะนำไปพัฒนาระบบบริการของสถานพยาบาล เพราะเป็นมาตรฐานที่ผ่านกลไกการมีส่วนร่วม มีหลักวิชาการ และผ่านการรับรองที่เป็นสากลคือ ISQua EEA (The International Society for Quality in Health Care External Evaluation Association) 


ซึ่งเรามีการพัฒนามาตรฐานมาโดยตลอดเพื่อตอบโจทย์สากล คือ 1.ตอบโจทย์มาตรฐานสากล ที่จะต้องทำให้ผู้ป่วยปลอดภัย (Patient Safety) 2. ทำให้สถานพยาบาลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดระบบบริการสุขภาพที่ดี 3. ตอบโจทย์ที่จะทำให้โรงพยาบาลมองเห็นความต้องการของผู้ป่วยหรือประชาชนเป็นหลัก โดยยึดให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางในการวางระบบบริการ หรือแนวทางในการรักษาหรือบริการสุขภาพ ขณะที่มาตรฐานของไทยเอง ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างคือ จะมีความสอดคล้องกับนโยบายทิศทางการเปลี่ยนแปลงของประเทศ เช่น ใส่มาตรฐานในเรื่องของ Telemedicine ซึ่งเป็นแนวทางการรักษารูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์โควิด-19 เพิ่มการเข้าถึงในสถานบริการ และการดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำปัจจัยปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้ามาใส่ในมาตรฐาน เช่น ชั่วโมงการทำงานของบุคลากรทาการแพทย์ เพื่อให้สถานพยาบาลเห็นความสำคัญในชั่วโมงการทำงานของบุคลากร


“ดังนั้นสถานพยาบาลไหน ที่นำมาตรฐานไปใช้ นอกจากจะได้หลักการในการบริหารองค์กรแล้ว เขายังได้รูปแบบของการพัฒนาที่ตอบโจทย์ที่สามารถเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประเทศเราเปิดรับนักท่องเที่ยว การที่สถานบริการมีมาตรฐานที่ผ่านการรับรองระดับสากล ไม่เพียงแค่คนไทยที่ได้รับประโยชน์ นักท่องเที่ยว ที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลที่ผ่านมาตรฐาน HA ทั่วประเทศ ก็จะได้รับการบริการที่มีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานสากล ที่สำคัญมาตรฐานนี้ยังสอดแทรกในเรื่องของ การส่งเสริม และสร้างเสริมสุขภาพ ที่จะทำให้สถานพยาบาลจัดรับบริการสุขภาพ ตั้งแต่การป้องกัน รักษา และฟื้นฟู กล่าวคือสถานพยาบาล มองตัวเองเป็นมากกว่าการรักษาในโรงพยาบาล แต่จะมองเชื่อมโยงไปถึงการดูแลฟื้นฟูในชุมชน” พญ.ปิยวรรณ กล่าว

%E0%B8%9C%E0%B8%AD.%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  กล่าวว่า โรงพยาบาลได้เข้าร่วมการพัฒนาระบบการบริการกับ สรพ. มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 และได้รับการรับรองครั้งแรกในปี พ.ศ.2543 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลแห่งแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA ในประเทศไทย โดยหลังการรับรองก็จะมีการประเมินซ้ำมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงระดับสูงสุดของมาตรฐาน HA คือ การรับรองครั้งที่ 5 ทางโรงพยาบาลได้กลับมามองว่าเราน่าจะไปได้ไกลกว่านั้น คือ จากเดิมที่ทำตามกรอบของ สรพ. ก็มีการคิดต่อไปมากกว่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และเพื่อความยั่งยืน รวมถึงจากการประเมินบุคลากร ส่วนใหญ่มีหัวใจที่ความพร้อมต่อการพัฒนาระบบบริการนำมาสู่การประเมิน มาตรฐาน Advance HA (AHA) 

“พูดถึงความแต่งต่าง HA กับ Advance HA หากกล่าวให้เห็นภาพชัดเจนคือ การพัฒนาระบบที่บุคลากรสามารถคิด ออกแบบได้ด้วยตนเอง นำเสนอด้วยตนเอง แม้ว่าการประเมินจาก สรพ. จะมีความละเอียดมากขึ้น โรงพยาบาลต้องเตรียมระบบให้มีความพร้อมมากขึ้น แต่ยังไม่ละทิ้งหัวใจสำคัญคือ การบริการต้องปลอดภัย คือ ความปลอดภัยในการให้บริการ ความปลอดภัยต่อบุคลากร ที่จะนำมาซึ่งบริการที่มีคุณภาพ” พญ.อัจฉรา กล่าว

%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%992โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ยังได้การรับรองมาตรฐานเฉพาะโรค เฉพาะระบบ (Program and Disease Specific Certification: PDSC) ที่การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย พญ.สุวิมล คูห์สุวรรณ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ได้ทำการพัฒนาคุณภาพการบริการ ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีมานานกว่า 20 ปี โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีผู้ป่วยสะสมและติดเชื้อเอชไอวีสูง โดยหากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ซึ่งภายหลังที่ได้เข้าร่วมการพัฒนาระบบมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยเฉพาะโรค โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายของจังหวัดเชียงราย โดยมีโรงพยาบาลเป็นแม่ข่าย และเชื่อมไปยังโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลอื่นที่ไม่ได้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงกลุ่ม NGO ในพื้นที่ที่ดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้เข้าสู่ระบบการรักษาที่โรงพยาบาลได้จนทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในพื้นที่ตอนนี้ลดลงอย่างมาก

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล มองว่า รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ใช้กลไกการรับรองเฉพาะโรค เป็นเครื่องมือในการดูแลผู้ป่วย HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาตรฐานเฉพาะโรคของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทำให้เกิดการทำงานบูรณาการในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาล ส่งผลให้ระบบบริการงานโรคติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ ตั้งแต่การส่งเสริมป้องกันการติดเชื้อ การตรวจค้นหาโรคการตรวจวินิจฉัย และตรวจติดตามประเมินสภาวะโรคและการดูแลรักษา สอดคล้องกับขอบเขตของการรับรองเฉพาะรายโรค คือ การดูแลผู้ป่วยโรคใดโรคหนึ่งตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดหรือตลอดธรรมชาติของการกำเนิดโรค และเพื่อให้ดูแลเฉพาะโรคที่ดีดังกล่าวขยายความสำเร็จในระดับจังหวัด จึงเกิดความร่วมมือและการสนับสนุนจากกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค  และ ศูนย์ความร่วมมือไทย สหรัฐ ด้านสาธารณสุข (PEPFAR) ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพด้านเอชไอวี ทั้งในระดับ รพ.(HIV-DSS) และเข้าสู่การรับรองคุณภาพเครือข่ายสถานบริการ (HIV-HNA) สู่การยุติปัญหาเอดส์ ในปี 2573 (2030)



No comments

Powered by Blogger.